<![CDATA[AV Press]]> /press/th-th/ th-th Sun, 27 Apr 2025 19:24:32 +0200 Mon, 13 Mar 2023 12:15:46 +0100 <![CDATA[AV Press]]> https://content.presspage.com/clients/150_2529.png /press/th-th/ 144 โค๶วสโตรลงทุนขยายกำลังการผลิตฟิล์มโพลีคาร์บอเȨในประเทศไทย /press/th-th/covestro-expands-production-capacity-for-polycarbonate-films-in-thailand-th/ /press/th-th/covestro-expands-production-capacity-for-polycarbonate-films-in-thailand-th/564004พิธีวางศิลาฤกษ์สำหรับสายการผลิตใหม่ที่มาบตาพุด
  • การลงทุนมูลค่ากว่าหลายสิบล้าȨูโร
  • การก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2568
  • สำหรับการใช้งานทางด้านบัตรประจำตัว อุตสาหกรรมรถยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • ๶พิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ฟิล์มที่มีความยั่งยืน
  • ]]>
    ๶กี่ยวกับโค๶วสโตร

    โคเวสโตรเป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัสดุโพลิเมอร์และส่วนประกอบทางโพลิเมอร์คุณภาพสูงชั้นนำของโลก ด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ กระบวนการ และวิธีการ บริษัทช่วยส่งเสริมความยั่งยืนและ คุณภาพชีวิต ในหลายแง่มุม โคเวสโตร ให้บริการลูกค้าทั่วโลกในอุตสาหกรรมหลัก เช่น การเดินทางและการขนส่ง อาคารและที่อยู่อาศัย ตลอดจนอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ โพลีเมอร์จากโคเวสโตร ยังใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น กีฬาและสันทนาการ เครื่องสำอางและสุขภาพ ตลอดจน ในอุตสาหกรรมเ คมีด้วย บริษัทได้ตั้งเป้าหมายในการเป็นบริษัทหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ และมุ่งบรรลุความเป็นกลางทาง สภาพภูมิอากาศภายในปี พ.ศ. 2578 (ในขอบเขต 1 และ 2) โคเวสโตร สร้างยอดขายได้ 18 พันล้านยูโรในปี งบประมาณ พ.ศ. 2565 บริษัทมีโรงงานผลิต 50 แห่งทั่วโลกและมีพนักงานประมาณ 18,000 คน (คำนวณจากจำนวนพนักงานประจำ) ณ สิ้นปี พ.ศ. 2565 

    ข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้อาจมีข้อความที่บ่งชี้ถึงอȨคต โดยใช้ข้อสันนิษฐานและการคาดการณ์ของ 
    โคเวสโตร เอจี เป็นพื้นฐาน ปัจจัยด้านความเสี่ยงที่คาดการณ์ได้และที่คาดการณ์ไม่ได้ ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ อาจส่งผลต่อข้อมูลที่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งด้านผลประกอบการจริง สถานการณ์ทางการเงิน ผลการดำเนินงานและการพัฒนาของบริษัทในอนาคต โดยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ หมายรวมถึงปัจจัยที่อยู่ในรายงานสาธารณะของโคเวสโตร ซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ที่เว็บไซต์โคเวสโตร www.covestro.com ทั้งนี้ โคเวสโตรจะไม่ขอรับผิดชอบในการอัพเดทข้อความบ่งชี้ถึงอนาคตต่างๆ หรือการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ตรงตามสถานการณ์หรือการพัฒนาในอนาคต

    ]]>
    โคเวสโตร เริ่มแผนการขยายการผลิตฟิล์มโพลีคาร์บอเนตชนิดพิเศษ (PC film) ทั่วโลก เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งได้มีการวางศิลาฤกษ์ในการเริ่มก่อสร้างสายการผลิตการอัดขึ้นรูปแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุดในประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 โดยผลิตภัณฑ์ฟิล์มชนิดนี้เป็นส่วน ประกอบของผลิตภัณฑ์ประเภทเอกสารประจำตัวเฉพาะ บุคคล จอแสดงผลในรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการลงทุนใน ครั้งนี้มีมูลค่าหลายสิบล้านยูโร โดยการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2568 และจะมีการ จ้างงานกว่า 50 ตำแหน่ง

    คุณ สุเชตา โกวิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์ โคเวสโตร กล่าวว่า “การลงทุนในครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันและกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะ เพื่อช่วยขยายขีดจำกัดในธุรกิจให้เติบโตไปอย่างต่อเนื่อง และในขณะเดียวกัน การลงทุนครั้งนี้ยังช่วยให้เราสามารถตอบรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น และสามารถรองรับการขยายตัวของเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมในอนาคตอีกด้วย”

    ดร.แคโรไลน์ วูล์ฟ หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ฟิล์มชนิดพิเศษ ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวถึงการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ว่า "เนื่องด้วยความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น อย่างต่อเนื่องเราจึงได้มีการลงทุนขยายกำลังการผลิต เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศไทย จีน เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา โดยเราต้องการ ผลักดัน การเติบโตในธุรกิจฟิล์มโพลีคาร์บอเนต ที่มุ่งเน้นที่ลูกค้า และ นวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่ง โซลูชั่นที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างการรีไซเคิลหรือการใช้วัตถุดิบชีวมวลบางส่วน ถือเป็นส่วนสำคัญ” 

    ๶พิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ฟิล์มที่ผลิตจากวัตถุึϸบทาง๶ลือก

    โคเวสโตรนำเสนอผลิตภัณฑ์ฟิล์ม PC ที่หลากหลายและยั่งยืน ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์สมดุล- มวลสาร ที่ได้ รับการรับรองมาตรฐาน ISCC PLUS โดยวัตถุดิบของฟิล์มดังกล่าวนั้น ผลิตจากขยะชีวภาพและวัสดุตกค้าง ซึ่งเรานำมาเป็นองค์ประกอบหนึ่งห่วงโซ่คุณค่าการผลิต และผลิตภัณฑ์ 
    ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 ศูนย์การผลิตมาบตาพุดได้รับการรับรองจาก ISCC PLUS ทำให้โรงงาน แห่งนี้สามารถผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์สมดุลมวลสาร โดยลูกค้าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ ของ โคเวสโตรในกระบวนการผลิตเพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน นอกเหนือจากนี้ โคเวสโตรยัง ได้นำเสนอ ผลิตภัณฑ์ฟิล์มหลายชนิดที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบจากพืชหรือพลาสติกรีไซเคิล อีกด้วย

    ดร.ทีโม สลาวินสกี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด และ ผู้จัดการศูนย์ การผลิต โคเวสโตร มาบตาพุด กล่าวว่า "โรงงานแห่งใหม่มีความพร้อมแล้ว และจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ ใน ไตรมาสที่ 2 ตามแผนที่วางไว้ โดยโรงงานมาบตาพุดมี คุณสมบัติด้านคุณภาพและ มาตรฐานความปลอดภัยในระดับสูง สอดคล้องกับกลยุทธ์โดย รวมของโคเวสโตร ศูนย์การผลิตในประเทศไทยของเราถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกในการร่วมมือ กับลูกค้าและซัพพลายเออร์เพื่อผลิตวัสดุที่มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น”

    ]]>
    Thu, 09 Mar 2023 10:02:00 +0100 https://content.presspage.com/uploads/2529/59ca9412-315b-42bb-a103-516b67dfbeae/500_20230309-groundbreaking-for-new-polycarbonate-films-production-in-map-ta-phut-pic-1.jpg?41499 https://content.presspage.com/uploads/2529/59ca9412-315b-42bb-a103-516b67dfbeae/20230309-groundbreaking-for-new-polycarbonate-films-production-in-map-ta-phut-pic-1.jpg?41499
    โชว์ศักยภาพเยาวชȨทยกับไอเึϸยสุด๶จ๋ง /press/th-th/thai-youth-showcased-their-innovative-ideas-th/ /press/th-th/thai-youth-showcased-their-innovative-ideas-th/521085นักศึกษาจาก ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี “KMUTT CHARGING STATION” คว้ารางวัลชนะเลิศ การประกวดออกแบบนวัตกรรม “สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า” ในโครงการ AV Innovation Design Contest 2021

    ]]>
    ๶กี่ยวกับโค๶วสโตร

    โคเวสโตรเป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัสดุโพลิเมอร์รายใหญ่ที่สุดในระดับโลก ด้วยยอดขายกว่า 10.7 พันล้านยูโรในปี 2020 ธุรกิจของโคเวสโตรให้ความสำคัญกับการผลิตวัสดุโพลิเมอร์ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงและการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันในหลายๆด้าน และในการดำเนินการนี้ โคเวสโตรกำลังก้าวไปสู่การหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ อุตสาหกรรมหลักที่เป็นกลุ่มลูกค้าของโคเวสโตร คือ อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง อุตสาหกรรมก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์และไม้ รวมถึงอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน นอกจากนี้ยังรวมถึง กีฬาและสันทนาการ เครื่องสำอางและอึตสหกรรมเคมีเองอีกด้วย โคเวสโตรมีศูนย์การผลิตอยู่ 33 แห่งทั่วโลก และมีพนักงานประจำและเทียบเท่าประมาณ 16,500 คน (ข้อมูล ณ สิ้นปี 2563)

    ข้อความที่บ่งชี้ถึงอȨคต

    ข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้อาจมีข้อความที่บ่งชี้ถึงอȨคต โดยใช้ข้อสันนิษฐานและการคาดการณ์ของโคเวสโตร เอจี เป็นพื้นฐาน ปัจจัยด้านความเสี่ยงที่คาดการณ์ได้และที่คาดการณ์ไม่ได้ ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ อาจส่งผลต่อข้อมูลที่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งด้านผลประกอบการจริง สถานการณ์ทางการเงิน ผลการดำเนินงานและการพัฒนาของบริษัทในอนาคต โดยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ หมายรวมถึงปัจจัยที่อยู่ในรายงานสาธารณะของโคเวสโตร ซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ที่เว็บไซต์โคเวสโตร www.covestro.com ทั้งนี้ โคเวสโตรจะไม่ขอรับผิดชอบในการอัพเดทข้อความบ่งชี้ถึงอนาคตต่างๆ หรือการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ตรงตามสถานการณ์หรือการพัฒนาในอนาคต

    ]]>
    20 ธันวาคม 2564: เยาวชนไทยได้แสดงความสามารถให้เห็นกันอีกครั้งในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ AV Innovation Design Contest 2021 (IDC 2021) โครงการประกวดออกแบบนวัตกรรม “สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station)” ภายใต้แนวคิด “เสริมพลังสู่เส้นทางการหมุนเวียนอย่างยั่งยืน (Recharge to a Fully Circular Way)” เพื่อผลักดันไอเดียนวัตกรรมการใช้พลังงานสะอาดและการหมุนเวียนอย่างมีคุณค่า จัดโดย โคเวสโตร ผู้นำด้านวัสดุ โพลิเมอร์ระดับโลก ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ผลงาน KMUTT CHARGING STATION มีความคิดสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรม ตอบโจทย์การใช้งาน EV Car และสามารถนำแนวคิดไปพัฒนาต่อยอดสู่การผลิตเพื่อใช้งานได้จริง รวมถึงยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวกของผู้ใช้งานในด้านต่างๆ อีกด้วย

    โครงการประกวดออกแบบนวัตกรรม AV Innovation Design Contest 2021 (IDC 2021) ได้ประกาศผลรางวัลผู้ชนะเลิศจากเวทีการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่จัดขึ้นเพื่อเฟ้นหาทีมนักศึกษาที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย และสามารถนำเสนอไอเดียการออกแบบ “สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station)” ภายใต้แนวคิด “เสริมพลังสู่เส้นทางการหมุนเวียนอย่างยั่งยืน (Recharge to a Fully Circular Way)” ได้อย่างตอบโจทย์ทั้งทางด้านไอเดียเชิงนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และความยั่งยืน รวมถึงความเป็นไปได้ในการนำไปพัฒนาเพื่อการใช้งานได้จริงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เยาวชนระดับปริญญาตรีทั่วประเทศ ได้แสดงศักยภาพด้านการคิดและพัฒนานวัตกรรมอย่างสร้างสรรค์ ชิงทุนการศึกษารวมกว่า 185,000 บาท โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายหน่วยงาน ได้แก่ นายวฤต รัตนชื่น ผู้อำนวยการฝ่ายแผนยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และนายพิชิต พงษ์ประเสริฐ หัวหน้างานพัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), นายชาญณรงค์ แก่นทอง นายกสภาสถาปนิก รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด ได้แก่ นางสาวกวิสรา วรรธนะพิศิษฐ์ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรประจำภูมิภาคอาเซียน และนายชัยยุทธ แจ้งเจนรบ ผู้จัดการโรงงาน ศูนย์การผลิตโพลีคาร์บอเนต ร่วมให้เกียรติเป็นคณะกรรมการตัดสิน

    ึϸ.ทีโม่ สลาวินสกี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โคเวสโตร ได้จัดการประกวดในโครงการนี้มาต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้วในปีนี้ ด้วยความตั้งใจและวัตถุประสงค์ที่มุ่งขับเคลื่อนแนวคิดเชิงนวัตกรรมให้กับเยาวชนเด็กรุ่นใหม่ เปิดเวทีให้น้องๆ ได้แสดงศักยภาพและความสามารถทางความคิด ไอเดียเชิงนวัตกรรม และการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาชุมชนและสังคมให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป พร้อมๆ กับการส่งเสริมความยั่งยืน ซึ่งหัวข้อการแข่งขันปีนี้มีความน่าสนใจและค่อนข้างท้าทายมากที่นักศึกษาจะได้แสดงไอเดียออกแบบสถานีชาร์จ EV ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ และทางโคเวสโตรเอง ก็มุ่งเน้นแนวคิดไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน และพยายามอย่างมากในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดสายการผลิตทั้งหมดของเรา ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) และเราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงของโลกคือกุญแจสำคัญในการเปิดโอกาสให้เราได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่นำเราไปสู่โลกที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนในการดูแลรักษาโลกของเรา ถึงแม้ว่าโครงการ IDC จะเป็นส่วนเล็กๆ ที่ช่วยส่งเสริมแนวคิดเชิงนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนความยั่งยืน แต่เราเชื่อว่าความพยายามนี้พร้อมกับการจับมือร่วมกับองค์กรต่าง ๆ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความยั่งยืน พร้อมส่งมอบโลกที่น่าอยู่นี้ไปยังคนรุ่นต่อไปในอนาคตของได้”

    “และผมขอแสดงความยินดีกับน้องๆ นักศึกษาทุกทีมที่ได้รับรางวัลจากเวทีการแข่งขันในปีนี้ และขอชื่นชมทุกคนที่มองเห็นปัญหา และหาแนวทางการแก้ไข ร่วมกันนำเสนอไอเดียดีๆ ในการออกแบบ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นโจทย์ของปีนี้ ซึ่งเราอยากเห็นแนวคิดใหม่ๆ ที่ยอดเยี่ยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต และขอขอบคุณทาง EGAT อีกครั้งที่มีเป้าหมายและร่วมกันสนับสนุนแคมเปญนี้ด้วยกัน” ึϸ.ทีโม่ กล่าวทิ้งท้าย

    คุณวฤต รัตนชื่น ผู้อำนวยการฝ่ายแผนยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้กล่าวถึงแนวโน้มการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังก้าวเข้ามามีบาทบาทสำคัญในโลกและในประเทศไทย ซึ่งกำลังร่วมกันหาแนวทางการสร้างความยั่งยืนให้กับโลก และโจทย์ของโครงการ IDC 2021 นี้ถือได้ว่าจะมีประโยชน์กับสังคมในวงกว้าง “ถ้าไอเดียการออกแบบสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของน้องๆ จะช่วยส่งเสริม และทำให้คนอยากหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นพลังงานสะอาด และช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศให้กับโลกได้ นั่นคือประโยชน์ที่น้องๆ สามารถสร้างให้กับโลกใบนี้” คุณวฤต กล่าว

    ผลงานของผู้เข้าแข่งขันทั้ง 6 ทีมที่ผ่านเข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้าย ได้แสดงถึงศักยภาพ ทั้งแนวคิดในการตอบสนองต่อปัญหาที่เป็นอยู่และความความคิดสร้างสรรค์ในออกแบบนวัตกรรม “สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station)” ซึ่งตอบโจทย์เกณฑ์การตัดสินได้เป็นอย่างดีเยี่ยม รวมถึงรูปแบบการนำเสนอผลงานของแต่ละทีมที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน สร้างความความประทับใจให้กับคณะกรรมการตัดสินเป็นอย่างมาก โดยผลงาน “KMUTT CHARGING STATION” ของที่นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง โดยได้รับรางวัลเป็นทุนการศึกษามูลค่า 80,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและประกาศนียบัตร

    สำหรับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ผลงาน DENOTOL จาก ทีมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับถ้วยรางวัลและประกาศนียบัตร พร้อมทุนการศึกษาจำนวน 50,000 บาท

    รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ผลงาน Camellia Charging Station จาก ทีมมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับถ้วยรางวัลและประกาศนียบัตร พร้อมทุนการศึกษามูลค่า 30,000 บาท

    นอกจากนี้ รางวัลชมเชยอีก 3 รางวัล ประกอบด้วย ผลงาน ECO-FRIENDLY MINI EV CHARGING STATION จาก ทีมสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง, ผลงาน Power Treecharg จาก ทีมมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และผลงาน Green Tower Station จาก ทีมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือได้รับทุนการศึกษา รางวัลละ 5,000 บาท และรางวัล Popular Vote ทีมที่มีผู้ชื่นชอบได้รับการโหวตมากที่สุด คือผลงาน DENOTOL จาก ทีมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี รับทุนการศึกษาพิเศษ 10,000 บาท

    ]]>
    Sun, 17 Jul 2022 11:42:00 +0200 https://content.presspage.com/uploads/2529/500_20220722-thai-youth-03.jpeg?10000 https://content.presspage.com/uploads/2529/20220722-thai-youth-03.jpeg?10000